หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ การอ่านจับใจความสำคัญ

ตัวชี้วัด

. ม./ ระบุใจความสำคัญและรายละเอียดของข้อมูลที่สนับสนุนจากเรื่องที่อ่าน

ให้นักเรียนศึกษาใบความรู้แล้วตอบคำถามในใบงานที่ ๑

อ่านเรื่องการเล่นจาโต แล้วตอบคำถาม ๑๐ ข้อ

การเล่นจาโต

การเล่นจาโต คือ การเล่นหมากรุก ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าชิยงที่ปกครองเมืองบันนังชาเร็ง ปัจจุบันนี้เป็นชื่อตำบลหนึ่งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดยะลา

พระเจ้าชิยงเป็นพระราชาที่มีหน้าตาคล้ายหนุมาน คือมีเขี้ยวและมีหางเรื่องราวของพระองค์ มีดังนี้

พระราชาองค์หนึ่งครองเมืองบังนังชาเร็ง พระองค์มีธิดาโฉมงามองค์หนึ่ง เมื่อถึงวัยที่จะมีคู่ พระองค์จึงประกาศว่า ผู้ที่ขึ้นต้นชาเร็งได้สูงสุดจะได้ครองเมืองบันนังชาเร็งและได้แต่งานกับนาง ต้นชาเร็งมีลักษณะคล้ายกับต้นตาลแต่สูงมาก

ชายหนุ่มจำนวนมากต่างอาสาขึ้นต้นชาเร็งแต่ก็ไม่สามารถขึ้นไปถึงยอดได้ จนกระทั้งถึงชายคนสุดท้ายที่อาสา เขามีหน้าตาหน้าเกลียดมีเขี้ยวและมีหาง พระราชาอนุญาตเพราะคิดว่าคงไม่สามารถจะขึ้นไปถึงยอดของต้นชาเร็งได้ แต่ปรากฏว่าชายคนนี้ขึ้นไปถึง พระองค์จึงจำต้องยกธิดาแลเมืองบันนังชาเร็งให้ครอบครอง คือ พระเจ้าชิยงนั้นเอง

พระเจ้าชิยงสร้างที่ประทับไว้สูงมากเพราะไม่ต้องการให้ผู้ใดเห็นหน้า สิ่งที่พระองค์ โปรดปรานคือการกินตับและเนื้อมนุษย์ ซึ่งอาจช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ทหารต้องนำมาถวายวันละ 1 คน จนกระทั้งราษฎรในเมืองเหลือน้อยลงทุกวัน

มนตรีเป็นนามของอำมาตย์ที่ฉลาดที่สุดของเมืองนั้น เขาคิดหาทางที่จะทำให้พระเจ้าชิยงหยุดกินเนื้อมนุษย์ ได้วางแผนให้มีการแข่งขันการเล่นจาโตต่อหน้าพระเจ้าชิยง ซึ่งฝ่ายตรงข้ามมาจากเมืองอื่น การเล่นจาโต ระหว่างอำมาตย์มนตรีกับฝ่ายตรงข้ามดำเนินไปอย่างเคร่งเครียด จนกระทั้งปรากฏว่า อำมาตย์เหลือ “ขุน” เพียงตัวเดียว “ขุน” ในความหมายนี้ แปลว่า “พระราชา” ในที่สุดอำมาตย์มนตรีจนมุมไม่สามารถเดินต่อไปได้และพ่ายแพ้ต่อฝ่ายตรงข้าม พระเจ้าชิยงจึงได้คิดว่า “ถ้าเรากินราษฎรหมดแล้ว จะสู้รบกับข้าศึกอย่างไร” ตั้งแต่นั้นมาพระเจ้าชิยงก็รักราษฎรและปกครองให้อยู่อย่างมีความสุข พระองค์ได้ให้รางวัลแก่อำมาตย์มนตรีและฝ่ายตรงข้ามที่ทำให้พระองค์คิดได้ กีฬาจาโตจึงเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

สุนันทา มั่นเศรษฐวิทย์ : รายงานการวิจัย